HomeThailandฟาสต์แฟชั่น ปรากฏการณ์ใหม่ ทำลายโลก

ฟาสต์แฟชั่น ปรากฏการณ์ใหม่ ทำลายโลก

แค่ชอบเอฟเสื้อผ้า แต่รู้หรือไม่ว่าเรากำลังร่วมทำลายโลก? เพราะการช็อปปิงที่เกินความพอดี สูบทรัพยากรของโลกมหาศาล สุดท้ายเสื้อผ้าที่ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ก็ยังกลายเป็นภูเขาขยะที่ไร้ค่า ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมวนไป

บทความนี้จะชวนทำความเข้าใจว่าทำไมเราควรพิจารณาใหม่ในการจะซื้อเสื้อผ้าแต่ละครั้ง แล้วจะมีวิธีอย่างไรบ้างที่ทำให้สายช็อปสายแฟยังคงอินเทรนด์แบบคนก็สวยโลกก็สวยด้วย ผ่านเนื้อหาในนิทรรศการ “ช็อปล้างโลก”ที่จัดแสดงอยู่ในมิวเซียมสยามเวลานี้ พร้อมคุยกับ พาฉัตร ทิพทัส ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายนิทรรศการและกิจกรรม มิวเซียมสยาม

“Fast Fashion หรือ แฟชั่นจานด่วน คือการผลิตในปริมาณมาก ในเวลาอันรวดเร็ว และขายในราคาถูก สามารถออกแบบ ตัดเย็บ และวางขายได้ในอาทิตย์เดียว แม้จะสร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจมหาศาล แต่กระบวนการนี้ถูกตีตราว่าเป็นตัวทำลายล้างโลก เพราะเป็นสาเหตุของปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยพบว่าอุตสาหกรรมผลิตเสื้อผ้าตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 8”

พาฉัตร ทิพทัส ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายนิทรรศการและกิจกรรม มิวเซียมสยาม

ซื้อเสื้อผ้าเพียง 1 ตัว ก็สะเทือนถึงชั้นบรรยากาศ

พาฉัตร ทิพทัส ให้ข้อมูลว่า คนหนุ่มสาวซื้อเสื้อผ้าใหม่เป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของเสื้อผ้าที่มีอยู่เดิม ปริมาณการสั่งซื้อเสื้อผ้าทั่วโลกเพิ่มขึ้น 60% เนื่องจากการขยายตัวของชนชั้นกลาง โดยเฉพาะที่ประเทศจีน และอินเดีย ทำให้ธุรกิจผลิตเสื้อผ้าทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 90 ล้านล้านบาทต่อปี แต่กลับพบว่ามีการสูญเสียมูลค่าทางการเงินถึง 175 หมื่นล้านบาท จากการผลิตเสื้อผ้าออกมาแล้วไม่ถูกใช้งาน ไม่ว่าจะขายออกหรือไม่ หรือแม้แต่ขายได้ก็อาจจะซื้อแล้วไม่ได้ใส่

ถ้าปล่อยให้ย่อยสลายตามธรรมชาติ ต้องใช้เวลาร่วมร้อยปี ทางที่มักใช้ในการกำจัดคือฝังกลบ ทั่วโลกพบเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้ว 73% ส่งไปยังหลุมฝังกลบ หรือเผาเป็นพลังงานนับเป็นจำนวนมากถึง 10 ล้านตันในแต่ละปี (เทียบเท่าขวดพลาสติด 5 หมื่นล้านขวด) ซึ่งประเทศด้อยพัฒนาต่าง ๆ มักกลายเป็นสถานที่สำหรับการทิ้งขยะเสื้อผ้าของโลก เช่น ประเทศเฮติ ในทวีปแอฟริกา ส่วนที่เป็นตำนานเล่าขานคือทะเลทรายอาตากามา (atacama) หนึ่งในทะเลที่แห้งแล้งที่สุดในโลก อยู่ที่ประเทศชิลี ทวีปอเมริกาใต้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือภูเขาเสื้อผ้าจำนวนมหาศาลไกลสุดลูกหูลูกตา แม้แต่เสื้อผ้าที่ผลิตในโรงงานจีน หรือบังกลาเทศ ที่ขายไม่ออก ตกรุ่นยังถูกขนส่งมาทิ้งที่ประเทศชิลี ตกราว ๆ ปีละ 5.9 หมื่นตัน

“สิ่งทอ 1 กิโลกรัม ถ้านับตั้งแต่กระบวนการผลิตจนทิ้งเป็นขยะ จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกราว 20 กิโลกรัมคาร์บอน ทำให้ถ้านับรวมทั้งอุตสาหกรรมเสื้อผ้าจะเท่ากับว่ามีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากถึง 3.3 พันล้านตันต่อปี สูงเท่ากับอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของทวีปยุโรปทั้งทวีปในแต่ละปี หรือเทียบเท่ากับการปล่อยการขับรถยนต์ 372 ล้านคัน ใน 1 ปี และมากกว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเที่ยวบินระหว่างประเทศ และการขนส่งทางเรือรวมกัน ซึ่งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมากแบบนี้นเท่ากับเป็นการซ้ำเติมปรากฏการณ์เปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ หรือ ภาวะโลกร้อน”

พาฉัตร ทิพทัส ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายนิทรรศการและกิจกรรม มิวเซียมสยาม

ฟาสต์แฟชั่น เน้นผลิตไว ไม่สนอะไรทั้งนั้น

ธุรกิจเสื้อผ้าฟาสต์แฟชั่นคำนึงถึงกำไรเป็นหลัก แต่ละแบรนด์ต่างแข่งขันกดต้นทุนให้ต่ำ เลือกใช้วัตถุดิบราคาถูก จ้างแรงงานราคาถูก เพื่อให้สามารถขายได้ในราคาถูก แม้ว่าสินค้าจะคุณภาพแย่ก็ตาม สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการคือ ให้เป็นสินค้าซื้อง่ายยอดขายพุ่ง ด้วยราคาที่ถูกนี่เอง กระตุ้นให้ผู้บริโภคกระหายที่จะซื้อเสื้อผ้าตัวใหม่อยู่ตลอดเวลา โดยไม่รู้สึกเสียดายเงิน และไม่เสียดายหากจะต้องทิ้งเสื้อผ้าชุดเก่าไปแม้จะใส่ไม่กี่ครั้ง หรือไม่เคยใส่เลยก็ตาม

สำหรับฐานการผลิตฟาสต์แฟชั่นมักจะอยู่ในพื้นที่ประเทศด้อยการพัฒนา เนื่องจากสามารถจ้างแรงงานราคาถูกได้ เพื่อลดต้นทุนของสินค้า นอกจากนี้ยังพบว่าในบางกรณีแรงงานถูกกดราคาค่าจ้างให้น้อยกว่าแรงงานขั้นต่ำด้วยซ้ำเป็นการกดขี่ และคุณภาพชีวิตของแรงงานในโรงงานก็ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ถูกสุขลักษณะ หรือจะเรียกว่า โรงงานนรกก็ได้

“ปัจจุบันไทยมีบริษัทด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอ มากกว่า 2,000 บริษัท มีคนงานรวมกว่า 1 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานนอกระบบ ไร้สวัสดิการทางสังคม บ้างเป็นแรงงานต่างด้าว ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำของไทย โดยโรงงานมักตั้งขึ้นที่แนวชายแดน เพื่อให้แรงงานต่างด้าวข้ามมาทำงานได้ ย้อนกลับไปช่วงทศวรรษที่ 2520-2530 เป็นช่วงที่อุตสาหกรรมสิ่งทอของไทยเติบโตมาก แต่พอมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทำให้ฐานการผลิตย้ายไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านแทน”

พาฉัตร ทิพทัส ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายนิทรรศการและกิจกรรม มิวเซียมสยาม

ทรัพยากรมหาศาลถูกใช้เพื่อการผลิตเสื้อผ้า

เสื้อผ้าทั่วไปในท้องตลาด 26% ผลิตจากฝ้าย 63% ผลิตจากโพลีเอสเตอร์ และ 1% เป็นวัสดุอื่น ๆ อย่างไรก็ตามพบว่า กระบวนการผลิตเสื้อผ้าหรือสิ่งทอ ใช้ทรัพยากรของโลกจำนวนมาก สำหรับเสื้อผ้าที่ใช้วัสดุจากต้นฝ้ายแม้เป็นเส้นใยธรรมชาติแต่การปลูกแบบไม่ธรรมชาติก็ทำให้เกิดการสูบน้ำไปใช้จำนวนมาก โดยพบว่าทุ่งฝ้ายทั่วโลกซดน้ำมากถึง 93 พันล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี หรือเท่ากับปริมาณน้ำ 57% ของน้ำที่ใช้ในการเกษตรทั่วโลก หรือน้ำดื่มที่คน 5 ล้านคนใช้ดื่มใน 1 ปี แค่เพียงเสื้อยืดตัวเดียวยังต้องใช้น้ำมากถึง 2,700 ลิตร หากไม่รอน้ำฝนธรรมชาติ ก็ต้องไปสูบน้ำมารดต้นฝ้ายให้เติบโต โดยพบว่าทะเลสาบใหญ่อย่าง ‘อารัล’ ในแถบเอเชียกลาง ซึ่งเป็นแหล่งปลูกฝ้ายในประเทศคาซัคสถาน และอุซเบกิสถาน แห้งผากเพราะว่าถูกซูบไปรดต้นฝ้ายหมด

“ฝ้ายที่ใช้ผลิตเสื้อยืด 1 ตัว จะใช้น้ำในการปลูกมากถึง 2,700 ลิตร คือปริมาณน้ำในขวด 600 มิลลิลิตร จำนวน 4,500 ขวด เป็นปริมาณน้ำที่เราใช้ดื่มได้ถึง 1,350 วัน หรือ 3 ปี 8 เดือน แต่นั่นคือปริมาณน้ำที่ใช้ปลูกต้นฝ้ายสำหรับผลิตเสื้อยืดเพียง 1 ตัวเท่านั้น”

พาฉัตร ทิพทัส ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายนิทรรศการและกิจกรรม มิวเซียมสยาม

หากประเมินกระบวนการผลิตเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้าย 1 ตัว ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูกฝ้ายไปจนถึงการตัดเย็บ สามารถวัดคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาทั้งสิ้น 4.3 กิโลกรัมคาร์บอน ในขณะที่เสื้อเชิ้ตผ้าโพลีเอสเตอร์ 1 ตัว มีรอยเท้าคาร์บอน 5.5 กิโลกรัมคาร์บอน เสื้อผ้าฝ้าย ปล่อยคาร์บอนประมาณ 2 กิโลกรัมคาร์บอน ส่วนชุดเดรสผ้าโพลีเอสเตอร์ ปล่อยคาร์บอนประมาณ 17 กิโลกรัมคาร์บอน แม้ว่าเสื้อผ้าจากโพลีเอสเตอร์จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าเส้นใยโพลีเอสเตอร์อยู่มาก แต่ฝ้ายหิวน้ำและสร้างผลกระทบต่อแหล่งน้ำทั่วโลก

ใส่สบายแต่กลายเป็นไมโครพลาสติกในแหล่งน้ำ

สำหรับเสื้อผ้าและสิ่งทอที่ผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์โพลีเอสเตอร์ (เส้นใยพลาสติกทำจากน้ำมันปิโตรเลียม) เส้นใยประเภทนี้มีความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะมีน้ำหนักเบา ยืดหยุ่น ไม่ยับง่าย ทำความสะอาดง่าย ราคาถูก แต่มีคุณภาพต่ำใช้ไม่กี่ครั้งก็เปื่อย เมื่อซักด้วยเครื่อง เกิดแรงเหวี่ยง แรงบิด แรงกระแทกที่รุนแรง จะทำให้ไมโครไฟเบอร์หลุดออกมาจากเสื้อผ้าลอยมากับน้ำทิ้ง เล็ดลอดสู่แหล่งน้ำและท้องทะล หากซักเสื้อผ้าในถังขนาด 7 กิโลกรัม จะปล่อยไมโครไฟเบอร์มากถึง 31.5 ล้านชิ้น ขนาดเล็กกว่า 500 ไมครอน บางกว่าเส้นผม และมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า อีกทั้งยังไม่ย่อยสลายในน้ำด้วย

“เมื่อถูกปล่อยออกสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ เส้นใยไมโครพลาสติกเหล่านี้จะดูดซับสารพิษที่อยู่ในระบบระบายน้ำ เช่น ผงซักฟอก ยาฆ่าแมลง กลายเป็นอาหารของแพลงก์ตอน สู่กุ้ง ปลา จนถึงวาฬ ในที่สุดก็วนกลับมาสู่ผู้บริโภคอาหารทะเล มีการประเมินว่า 1 ใน 4 หรือ 25% ของอาหารทะเลที่เรากินล้วนมีไมโครพลาสติกผสมอยู่”

พาฉัตร ทิพทัส ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายนิทรรศการและกิจกรรม มิวเซียมสยาม

ทางเลือกแฟชั่นยั่งยืน

พาฉัตร ยกตัวอย่างว่า แฟชั่นเพื่อความยั่งยืนมีหลายแนวทาง เช่น การอุดหนุนเสื้อผ้าที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ลินิน กัญชง หรือฝ้าย ที่มีกระบวนการผลิตแบบธรรมชาติ เช่น ใช้น้ำฝน ใช้กระบวนการทอมือ ย้อมสีธรรมชาติ เพื่อลดสาเหตุของการเกิดน้ำเสีย และสารตกค้างในธรรมชาติ

“ไม่ใช่ว่าคุณต้องปฏิบัติธรรมะหรือไม่ซื้ออะไรเลย เราออกแบบการนำเสนอออกมาเป็นเหมือนวินโดว์ของร้านเสื้อผ้าในห้าง นำเสนอเนื้อหาของการสนับสนุนแฟชั่นยั่งยืน เช่น การ ReWEAR&RePAIR ReUsed UpCycle ReSell ReCycle โดยแบ่งเนื้อหานำเสนอเป็นกลุ่มต่าง ๆ ตามวินโดว์ เพื่อสนับสนุนการใช้ทรัพยากรเดิมให้เต็มศักยภาพ สร้างกระแสการใช้เสื้อผ้าซ้ำจนหมดอายุขัยของเสื้อผ้า หรือหากเสื้อผ้าผุพัง ก็นำมาซ่อมแซมใหม่ ออกแบบทำใหม่ให้เหมือนใหม่ ซึ่งป้า ๆ ลุง ๆ ที่รับซ่อมแซมเสื้อผ้าจริง ๆ ก็คือหน่วยปฏิบัติการซ่อมโลก เราก็จำลองการทำงานของเขามานำเสนอเพื่อชวนสังคมให้นึกถึงคนสำคัญกลุ่มนี้”

หรือองค์กรบริจาคเสื้อผ้าสิ่งทอเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่าง ๆ เช่น การรับบริจาคเสื้อผ้าสภาพดีของมูลนิธิกระจกเงา เพื่อขายต่อเป็นการระดมทุนช่วยเหลือผู้ยากไร้ หรือนำไปให้ผู้ที่ต้องการได้ใช้งานต่อ การส่งเสริมตลาดเสื้อผ้ามือสอง ทำให้เห็นว่าการใช้ของมือสองไม่ใช่สิ่งที่น่าอาย เพราะการยืดอายุขัยของเสื้อผ้าลดการใช้น้ำในการผลิตเสื้อผ้าได้ถึง 65 ลดรอยเท้าคาร์บอน หรือการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้เกือบ 7 เท่า ซึ่งปัจจุบันร้านเสื้อผ้ามือสองมีทั้งในออนไซด์และในออนไลน์ เช่น ตลาดโรงเกลือ ร้านปันกัน เอ็ฟออนไลน์ looper.shop

นอกจากนี้ ยังมีตัวอย่างของธุรกิจที่ใช้นวัตกรรมในการทำเสื้อผ้ามาผลิตเป็นของใหม่ เช่น มูลนิธิโอกาสที่สองแห่งชีวิต ที่มีการ upcycle สินค้าใหม่โดยชุมชนคลองเตย แบรนด์วิชชุลดาที่นำเครื่องแบบพนักงานธนาคารมาทำเป็นกระเป๋าที่มีเอกลักษณ์ใหม่ เพื่อคืนชีวิตใหม่ให้กับเสื้อผ้าสิ่งทอแฟชั่น แม้แต่บริษัทผู้ผลิตเสื้อผ้าสิ่งทอหลายแห่งก็เริ่มคิดเรื่องการนำเศษผ้า หรือม้วนด้ายเหลือทิ้งมาผลิตเป็นสิ่งใหม่ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างเรื่องราวของการรักษ์โลกบางทีเสื้อผ้าที่ผลิตใหม่ด้วยนวัตกรรมเพื่อลดการใช้ทรัพยากรของโลกจะมีราคาสูงบ้าง แต่ว่าก็เป็นทางเลือกของผู้ที่มีทุนทรัพย์ และอยากจะมีส่วนในการสนับสนุนแฟชั่นยั่งยืน

“อย่างไรก็ตามในส่วนสุดท้ายของนิทรรศการ เรามีแบบสำรวจความคิดเห็นของผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม ว่าเมื่อได้รับชมแล้วมีความคิดที่อยากจะเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองอย่างไรบ้าง อาจจะไม่ถึงกับการตัดสินใจว่าจะเลิกซื้อเสื้อผ้าแล้ว แต่เพียงแค่ว่าจากที่เคยซื้อเสื้อผ้าออนไลน์ทุกสัปดาห์ก็อาจจะนึกถึงทางเลือกอื่นบ้าง เช่น ไปซื้อเสื้อผ้ามือสองดีไหม หรือดูไปดูมาของเก่าก็ยังมีมากและยังใส่ได้อยู่ แม้จะเป็นการเปลี่ยนทิศทางเล็ก ๆ แต่สำหรับความร่วมมือของทุกคนในสังคมก็จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในภาพรวมของสังคมได้”

พาฉัตร ทิพทัส ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายนิทรรศการและกิจกรรม มิวเซียมสยาม

 

Nguồn: [ThaiPBS], [https://theactive.thaipbs.or.th/read/fast-fashion]

- A word from our sponsors -

spot_img

Most Popular

More from Author

Spanish literature and architecture: The engagement of shapes and words

Spain is not only known for its Moorish arches, terracotta roofs,...

Golden silk on the silver screen: Fashion and the scriptless stories

Fashion in cinema is not just an outer garment – it...

Vietnam delicacies alluring international visitors

Vietnam is not only famous for its stunning natural landscapes but...

- A word from our sponsors -

spot_img

Read Now

Spanish literature and architecture: The engagement of shapes and words

Spain is not only known for its Moorish arches, terracotta roofs, and sun-drenched squares, but also as the birthplace of captivating literary works. There, form and language do not merely coexist – they intertwine, support, and reflect each other, like a perfect marriage between visual art and...

Golden silk on the silver screen: Fashion and the scriptless stories

Fashion in cinema is not just an outer garment – it is a silent yet powerful language. Through every stitch and seam, characters become more vivid, their pasts are hinted at, their personalities are etched, and even their inner conflicts are woven into each layer of fabric....

Restoring memories – When the old living environment is the material for novel creativity

There are memories like waves that never rest – always lapping gently in the unconscious, caressing and seeking a new path. They are fragments of time, traces from a world that once was, yet within each speck of that dust of memory lies the potential for miraculous...

Vietnam delicacies alluring international visitors

Vietnam is not only famous for its stunning natural landscapes but also for its culinary paradise that captivates visitors with iconic dishes. From the fragrant pho to the crispy banh mi, each dish carries its own cultural story and unique flavor. Many international travelers have fallen in...

Popcorn Brain Syndrome – When the brain “bursts” amid the digital era

Have you ever felt exhausted even though you haven’t done much? Your mind keeps jumping from one thought to another, yet nothing really sticks? You might be a victim of a modern-day phenomenon – Popcorn Brain. Like kernels that get so hot they burst, the modern brain...

The variation of time: Aristino’s “Continuing the Legend” on the runway of legacy

Transcending the tangible boundaries of clothing, Aristino’s collection “Continuing the Legend” is not merely a showcase of form and structure, but a powerful declaration of the intersection between Vietnamese cultural heritage and the spirit of contemporary innovation. Deeply inspired by the bamboo tree – a symbol of...

Declaration of beauty and international vision: Crystal Star 2025 officially initiating the series of strategic projects

Ho Chi Minh City, April 15, 2025 – In the luxurious, prestigious setting of Galleria Center – Ho Chi Minh City, Crystal Star Entertainment (CSE) officially launched its key beauty projects for 2025 with a press conference unveiling two international competitions: Miss & Mister Celebrity Vietnam 2025...

Nguyen Thanh Thao – Vietnamese beauty as a combination of intellect, music, and poise

The contestant in Miss Vietnam 2024, Nguyen Thanh Thao, captivates the judges with her intellect, artistic talent, and exemplary Eastern demeanor. At 19, she is gradually proving that she is not just a beauty, but a young symbol of the modern woman — one who brings together...

Brittany Cartwright Reveals the One Thing She’ll ‘Never Forgive’ Ex Jax Taylor for Doing (Exclusive)

Brittany Cartwright says Jax Taylor would not leave their Los Angeles home for seven months after they split in February 2024 Cartwright says the home is a "safe space" for their 4-year-old son Cruz, who was diagnosed with autism in the fall Their separation will be...

Rami Malek and Emma Corrin Split After 2 Years of Dating

Rami Malek and Emma Corrin have broken up, PEOPLE has confirmed. The Bohemian Rhapsody actor, 43, and The Crown alum, 29, have split after two years of dating. Malek and Corrin, who is nonbinary and uses they/them pronouns, first sparked romance rumors in July 2023 when they were seen together at a Bruce Springsteen concert in London. The two were...

Sam Nivola Answers White Lotus Fans’ Burning Finale Questions — Including Why Lochlan Didn’t Wash the Blender

The actor also weighed in on some of the wild fan theories he saw this season This article contains spoilers from the season 3 finale of The White Lotus. Sam Nivola is giving fans his side of the story on The White Lotus' season 3 finale. The highly anticipated conclusion to the Mike White-led...

White Lotus Alum Alexandra Daddario Says She Hasn’t Watched Season 3 Yet Because of 5-Month-Old Baby (Exclusive)

"I haven't seen a thing because of my baby, which I know sounds like an excuse," Daddario explained to PEOPLE Alexandra Daddario hasn't been able to check into the third season of The White Lotus just yet. The 39-year-old Mayfair Witches actress starred in the first season of the show, which premiered in 2021...